ไฟไหม้โรงสีดังสุพรรณฯ รำข้าววอดนับ 10 ตัน

ไฟไหม้โรงสีดังสุพรรณฯ รำข้าววอดนับ 10 ตัน ย้ายข้าวสาร-จนท.ฉีดน้ำสกัดเพลิง
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 19 ก.พ. พ.ต.ท.ไชยา แร่เพชร รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.สระแก้ว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงสี ของ บ.ศศิธร อินเตอร์ไรซ์ จำกัด เลขที่ 99/9 หมู่ 3 ต.สระแก้ว อ.เมือง จึงได้รุดตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ทหารหน่วย ฉก.มทบ.17 รถดับเพลิง อีกกว่า 20 คัน ร่วมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยหน่วยผจญเพลิงสมาคมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวงสุพรรณบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยจักรนารายณ์อู่ทอง เจ้าหน้าที่ ปภ.รวม กว่า 30 คน ช่วยกันเร่งระดมฉีดน้ำสกัดเพลิง

 

ภายในโกดังสีข้าวที่เกิดเหตุ พบว่าบริเวณโกดังใหญ่ของโรงสี ซึ่งใช้เป็นพื้นที่เก็บรำข้าวที่สีแล้ว ภายในมีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาตามช่องระบายอาการอย่างหนาแน่นรอบบริเวณโกดัง เจ้าหน้าที่ ใช้เวลานานกว่า 1 ชม. ไฟยังคุกรุ่นบริเวณปล่องไฟและกองรำข้าวจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระดมฉีดน้ำพร้อมทั้งมีการระบายอากาศ ด้วยการเปิดประตูบานใหญ่ของโกดังออก พบว่ารำข้าวกองขนาดใหญ่เป็นภูเขากำลังปะทุไฟอยู่และมีกลุ่มควันจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ใช้เวลาอีกกว่า 2 ชม. เพลิงจึงสงบลง และยังคงฉีดน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ไฟปะทุขึ้นมาอีก และมีการขนย้ายข้าวสารบางส่วนออกจากโกดัง ซึ่งใกล้เคียงกับโกดังจุดเกิดเหตุพร้อมทำการตัดระบบไฟและระบบการทำงานเพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้ลุกลามโดยจากการตรวจสอบเบื้องต้น โรงสีดังกล่าว มีนายนริศ เลิศวิไลเลิศ อายุ 57 ปี หรือ เสี่ยเม้ง ความเสียหายเบื้องต้นภายในโกดังมีรำข้าวได้รับความเสียหาย คาดกว่า 10 ตัน รวมถึงเครื่องจักรที่ใช้ลำเลียงข้าวสารและรำข้าวได้รับความเสียหาย สอบสวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยโรงสี ให้การว่า ขณะที่ปั่นจักรยานตรวจความเรียบร้อยภายในโรงสี พบกลุ่มควันพวยพุ่งออมมาจากช่องลมของด้านบนของโกดัง ตนจึงได้แจ้งให้เจ้าของโรงสีทราบ จากนั้นได้รีบไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่ของโรงสีที่ทำการควบคุมเครื่องจักร และเจ้าหน้าที่ควบคุมระบบไฟ เร่งตัดระบบไฟทั้งหมดภายในโรงสีทันที พร้อมทั้งแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาทำการดับไฟ สำหรับสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ เบื้องต้นสันนิษฐานว่า น่าจะเกิดมาจากสะเก็ดไฟจากเครื่องจักร แล้วอาจตกหล่นมาใส่กองรำข้าวที่กองอยู่ จึงทำให้เชื้อไฟประทุขึ้นมาแล้วลุกลามอย่างรวดเร็ว ส่วนความเสียหายทั้งหมด อยู่ในระหว่างการประเมิน